เที่ยวสงขลา “ชิม 12 ร้านอร่อยบนถนนนางงาม + ตามหา Street Art สุดแนว” ย่านเมืองเก่า จ.สงขลา
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมมีหนึ่งรีวิวสุดพิเศษมาแชร์กับทุกคนอีกแล้ว! เป็นรีวิวระหว่างทริปที่ผมลงไปเที่ยว อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของผมแล้วสำหรับจังหวัดนี้ ไป คร่าวนี้เลยจะขอรีวิวอะไรใหม่บ้างๆ เลยมาจบที่ “11 ร้านอร่อย แนะนำให้มาลอง @ ถนนนางงาม อ.เมือง จ.สงขลา” นับว่าเป็นรีวิวพลีชีพมากเพราะผมต้องมาตะเวนทานทั้ง 11 ร้านถึง 2 วัน แต่มีความสุขน่ะ เพราะ ถ.นางงามเป็นถนนสายเก่าแก่ที่ทรงเสน่ห์มาก ไม่ว่าจะในเรื่องของวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ บ้านเรือนและบรรยากาศเก่าๆ ร่วมไปถึงอาหารการกิน ใครกำลังวางแผนมาเที่ยวสงขลาอยู่ … ไม่ควรพลาดรีวิวนี้ครับ!

ก่อนจะไปถึงเรื่องอาหาร เรามาทำความรู้จักกับถนนนางงามกันสักนิดครับ
ถนนนางงามเป็นถนนสายเก่าแก่ของ จ.สงขลา มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี แต่เดิมเรียกว่า “ถนนเก้าห้อง” เนื่องจากเริ่มแรกมีอาคารบนถนนสายนี้เพียง 9 คูหา หรือ 9 ห้อง และในปี พ.ศ.2478 จังหวัดสงขลา ได้จัดงานปีใหม่พร้อมกับจัดประกวดนางงามสงขลาขึ้น นางงามที่ชนะและได้เป็น “นางงามสงขลาคนแรก” นั้นก็อาศัยอยู่ ณ “ถนนเก้าห้อง” นับแต่นั้นมาคนสงขลาจึงเรียกถนนเส้นนี้ว่า “ถนนนางงาม”
สองสามปีที่ผ่านมานี้ทางเทศบาลเมืองสงขลาได้จัดทำสตรีทอาร์ทสุดแนว ส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดฝาผนังตามกำแพงตึกเก่าๆไว้มากมายหลายจุด จนตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่ทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต้องมาตามเก็บตามถ่ายรูปด้วย

ถนนนางงามเป็นถนนสายเล็กๆ ครับ ทั้ง 11 ร้านในรีวิวนี้ตั้งอยู่ติดๆ กันหมดเลย ใช้เวลาเดินจากร้านหนึ่งไปร้านถัดไปในเวลาไม่เกิน 5-10 นาที ดังนั้นใครสนใจร้านไหน ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอครับ (หากหาไม่เจอก็ถามคนแถวนั้นได้เลย คนในพื้นที่เขารู้จักทุกร้านดี) ส่วนสตรีทอาร์ทก็จะแฝงตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วถนนนางงามและถนนใกล้เคียง ผมไม่สามารถลงรายละเอียดพิกัดของแต่ละรูปได้ เพราะผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน ฮ่าๆ เลยแนะนำว่าใครมีเวลาก็ลองเดินตามหาไปเรื่อยๆได้ อารมณ์เหมือนเดินล่าลายแทงยังไงยังงั้น สนุกดีน่ะ และยังช่วยย่อยอาหารไปในตัว

ก่อนจะไปชิมร้านแรก หากใครจะตามรอยผมไม่ว่าคุณจะเดินทางมาถนนนางงามยังไง ขอให้มาเริ่มต้นที่หน้า “ร้านบ้านขนมไทยสองแสน” ครับ ซึ่งเป็นร้านขายขนมไทยพื้นเมืองเก่าแก่ของสงขลา เปิดมานานกว่า 60 ปี เป็นร้านแนะนำสำหรับใครที่มองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับไป ขนมที่แนะนำคือ ขนมทองเอก, สัมปันนี, ข้าวฟ่างกวน, มะม่วงแช่อิ่ม และขี้มอด

จากร้านบ้านขนมไทยสองแสนเดินตรงออกไปทางขวานิดเดียวก็จะเจอร้านแรกอยู่ทางซ้ายมือ …
1. โรตีนางงาม ๑๑๑
ร้านโรตีธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย สำหรับผมโรตีของร้านนี้เป็นหนึ่งในโรตีที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยทานมา (ไม่ได้อวยนะ อร่อยจริงๆ) โดยเฉพาะแป้งโรตีที่เหนียวแต่นุ่มในคำเดียวกัน ทอดจนเหลืองกรอบกำลังดี พนักงานในร้านบริการเป็นมิตร โรตีราคาไม่แพง เฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 25 บาท
ตัวร้านเป็นคูหาเล็กๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่ง 3-4 โต๊ะกับเมนูโรตีเกือบ 20 เมนูในเลือกสั่ง เช่น โรตีใส่ไข่ โรตีใส่ชีส โรตีแกงกะหรี่ โรตีฝอยทอง โรตีไส้กรอกไก่ โรตีทิชชู่ และอื่นๆ ด้านหน้าร้านก็จะมีอาบังสุดหล่อนวดแป้งโรตีและทอดแผ่นต่อแผ่นด้วยท่าทางพิถีพิถัน
นอกจากโรตีที่นี้ยังมีชาชักรสด้วยน่ะ (ชาชักเหมือนจะใช้ชาเนสที รสชาจะนำ รสหวานจะตามอ่อนๆ คนชอบทานชาหวานๆไม่น่าจะชอบ แต่ผมไม่ชอบทานหวานเลยถูกใจ)

- โรตี ๑๑๑ – โรตีหั่นเป็นชิ้นๆ สี่เหลี่ยม โรยหน้าด้วยท็อปปิ้ง 3 อย่าง ผงโอวัลติน ช็อคโกแลต และนมสดลูกเกตุ แป้งโรตีเหนียวนุ่มและกรอบมาก ทานกับท็อปปิ้งทั้ง 3 อร่อยเพลินดีครับ

- โรตีหมูยอง พริกเผา ทำมาเป็นแผ่นกลมๆขนาดไม่ใหญ่มาก ท็อปปิ้งหมูหยองใส่มาให้เยอะมาก ดื่มพร้อมกับชาชัก ไปด้วยกันได้ดีเลย

ที่ตั้ง: 111 ถ.นางงาม อ.เมือง ต.บ่อยาง จ.สงขลา
เวลาเปิด – ปิด: –
โทร: 085 958 2462
เวลาเปิด – ปิด: –
โทร: 085 958 2462



2. ไอติมยิว
ร้านที่ 2 เป็นร้านไอศครีมในตำนานของเมืองสงขลาเปิดมายาวนาวกว่า 80 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 (ผมยังไม่เกิดเล๊ย!) ร้านจะอยู่ตรงกันข้ามกับร้านโรตีนางงามครับ ข้ามถนนมาก็เจอเลย


บรรยากาศภายในร้านก็สุดแสนจะคลาสสิค (ไม่บอกก็เชื่อว่ามีอายุกว่า 80 ปี) มีโต๊ะไม้วางอยู่ 4 -5 มีถังไอติมอยู่หน้าร้าน กับภาพที่คุ้นตาของอาม่าค่อยบรรจงตักไอติมขึ้นมาจากถังให้ลูกค้าที่นั่งรอทานอย่างไม่เร่งรีบ

เมนูไอศครีมมีให้เลือกสั่งสองแบบครับ
- ไอติมธรรมดา (ราคา 20 บาท) : เป็นไอติมวนิลา 3 ลูกเล็กๆโรยผงไมโล
- ไอติมไข่แข็ง (ราคา 20 บาท) : ไอติมวนิลา 3 ลูกตอกไข่แดงราดลงไปพร้อมผงไมโล

สำหรับผมรสชาติก็ไม่ได้อะเมซิ่งขนาดนั้น แต่ก็เย็นชื่นใจ ช่วยดับร้อนระหว่างวันได้ดี ราคาไม่แพงอีกต่างหาก มากกว่านั้นคือความสุขเล็กๆของการได้ดื่มด่ำบรรยากาศ มองวิถีชีวิตของผู้คนเดินที่ผ่านมาผ่านไปหน้าร้าน
ที่ตั้ง: 120 ถ.นางงาม อ.เมือง ต.บ่อยาง จ.สงขลา
เวลาเปิด – ปิด: 12.00 – 21.30 น.
เวลาเปิด – ปิด: 12.00 – 21.30 น.
3. ก๋วยเตี๋ยวในรู
ร้านก๋วยเตี๋ยวในรู (อยู่ถัดจากร้านขนมสองแสนไปทางขวามือนิดเดียว) ร้านเล็กๆอยู่ในซอก เป็นร้านที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจย้อนยุค ประดับประดาด้วยสินค้าในบรรจุภัณฑ์สมัยก่อน โปสเตอร์เก่าๆ ผาพนังที่ก่ออิฐและสังกะสีเก่าๆ ใครชอบความวินเทจควรมาสัมผัสร้านนี้ (ร้านตกแต่งให้ดูเก่าแต่ข้างในนั้นสะอาดครับ)
เมนูของร้านนี้ก็เป็นเมนูก๋วยเตี้ยวก็มีให้เลือกครบครับ ไม่ว่าจะก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ หรือเย็นตาโฟ ในราคาไม่แพง และให้มาถ้วยใหญ่

- เส้นใหญ่เย็นตาโฟหนังหมู (ราคา 40 บาท) ไม่ค่อยเจอร้านที่ใส่หนังหมูในเย็นตาโฟเลยลองสั่งดู รสชาติเข้มข้น หวานหอมน้ำซุปต้มกระดูกหมู เพิ่มความอร่อยด้วยหมูสับแผ่นเนื้อหวานนุ่ม อร่อยดีครับ




4. ไอติมโอ่ง
ตรงกันข้ามกับร้านก๋วยเตี๋ยวในรูก็จะเป็น ร้านไอติมโอ่ง (ร้านไอติมเยอะจริงๆ) ร้านไอติมโอ่ง ค่อนข้างป๊อปปูล่าในหมู่เด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนมัธยมครับ ช่วงเย็นๆวัยรุ่นเต็มร้านเลย บรรยากาศร้านก็ธรรมดาเป็นห้องแถวไม่ได้ตกแต่งหวือหวาแต่อย่างใด
ไอติมของทางร้านมีให้เลือก 2 ประเภทคือแบบ ไอศครีมแบบดั่งเดิม (ไอศครีมกะทิ) และไอศครีมลิ้นจี้
โดยสามารถเลือกสั่งท๊อปปิ้งได้ 6 แบบคือ ทรงเครื่อง (ใส่เครื่องโน้นนี้นั้น) ถั่วเขียว หวานครีม (ผสมเฮลบลูบอย) ยกล้อ (ใส่น้ำโค้ก) เรนโบว์ และ ใส่ไข่ ทุกเมนูเสิร์ฟมาในโอ่งดินเผาเล็กๆ ราคาไม่แพงครับอยู่ที่จะประมาณ 20 บาทเท่านั้นเอง (สามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้ จะแถมโอ่งให้ด้วย)
เมนูที่ผมสั่ง
- ไอศครีมดั่งเดิมทรงเครื่อง (2o บาท) หอมหวานกะทิโรยหน้าด้วยผงโอวัลติน หวานเย็นชื่นใจดี
- ไอศครีมลิ้นจี้ยกล้อ (20 บาท) เมนูนี้รสชาติแปลกๆ ไม่ค่อยประทับใจ ทางร้านใส่น้ำแข็งและน้ำโค้กไว้ข้างใต้ แล้วใส่ไอติมข้างบน รสชาติจะออกซ่าๆ แต่เมื่อทานกับไอติมลิ้นจี้แล้วรสไม่เข้ากัน
** แนะนำว่าหากไม่อยากผิดหวังให้สั่งแบบดั่งเดิม หรือ ใส่ใข่ ครับ สองแบบนี้อร่อยที่สุดแล้ว (ชิมของเพื่อนมา)

- นอกจากไอติม ร้านยังขายลูกชิ้นปลาดทอดด้วย ไม้ละ 3 บาทเท่านั้นเอง ลูกชิ้นปลาทอดกรอบนอกนุ่มในทานกับน้ำจิ้มไก่อร่อยใช้ได้เลย

เวลาเปิด – ปิด: 11.00 – 19.00 น.
โทร: 074-315-594
5. ไอติมถั่วเขียวโบราณ บันหลีเฮง
เดินออกจากร้านไอติมโอ่งมา 5 ก้าว ก็จะพบกันร้านไอติมลำดับที่ 3 ของทริปนี้ มีชื่อว่า ร้านบันหลีเฮง ไอศรีมถั่วเขียวโบราณ เป็นอีกหนึ่งร้านไอติมเก่าแก่บนถนนนางงามม อายุอานามก็ปาไป 80 ปีแล้วเช่นกัน แรกเริ่มเดิมที่อาก๋ง และ อาม่า เดินทางมาจากเมืองจีนและมาขายไอติมที่ถนนนางงามโดยใช้สูตรที่นำติดตัวมาจากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน และตอนนี้ร้านก็ส่งต่อมาที่รุ่นลูกรุ่นหลานแล้วนะครับ
แม้เวลาจะผ่านไปทางร้านยังคงรักษาสูตรการทำไอติมแบบดั่งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง คือการใช้ถังไม้แบบเก่าในการปั่นไอศรีม และยังใส่ใจในขั้นตอนการเลือกถั่วเขียวที่จะมาต้มอย่างพิถีพิถัน เมนูไอติมของร้านมีให้เลือกหลายเมนู เช่น ไอติมไข่แข็ง ทรงเครื่อง ภูเขาไฟ หวานเย็นลิ้นจี้ ทรงเครื่องไข่แข็ง และ ไอติมถั่วเขียว


- ไอติมถั่วเขียวทรงเครื่อง (ราคา 20 บาท) (ปริมาณกับราคาไม่สมดุลกันเลย ให้ไอติมมาเยอะมากประมาณ 6 ลูกกับราคาเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น หากไม่ติดว่าอิ่มไปแล้ว จะสั่งเพิ่มอีก 2 – 3 ถ้วย) ถ้วยนี้บอกเลยว่าประทับใจมากกกก (มากกว่าร้านไอติมยิว และไอติมโอ่งอีก) เนื้อไอติมนุ่มละมุนลิ้น อบอวนไปด้วยรสความหอมหวานของกะทิสดและไข่ในระดับที่พอเหมาะ เมื่อทานพร้อมกับถั่วเขียวต้มที่ใส่มาให้แบบจัดหนักแล้วยิ่งเพิ่มความสดชื่นขึ้นไปอีก


- ชาร้อน (ราคา 25 บาท) เป็นชาร้อนที่ต้มในกาโบราณโดยใช้ถ่าน หอม หวาน กลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำชา 1 แก้ว ใครไม่อยากทานไอติมก็สั่งชาร้อนมาจิบให้ชุ่มคอได้ครับ

6. ร้าน เกียด ฟั่ง ซาลาเปา สูตรโบราณ
เดินถัดไปจากร้านไอติมถั่วเขียวโบราณ บันหลีเฮง อีกประมาณ 10 ก้าวก็จะพบกับ “ร้าน เกียด ฟั่ง ซาลาเปา สูตรโบราณ” (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร้านสตูเกียดฟั่ง โดยข้าวสตูของร้านนี้ขึ้นชื่อมาก เจ้าของในสมัยแรก ทำงานอยู่บนเรือและได้สูตรการทำสตูมาจากกุ๊กในเรือฝรั่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ น่าเสียดายที่สตูเกียดฟั่งจะขายหมดตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ประมาณ 07.00-13.00 น. วันนี้ผมมาถึงช่วงบ่ายก็เลยอดลอง) แต่ไม่เป็นไรมาลองซาลาเปาเกียดฟั่งแทนก็ได้


เกียด ฟั่ง ซาลาเปาจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น.ความว๊าวคือขนาดที่ใหญ่ยักษ์ขนาดเท่าฝ่ามือมาก ลูกใหญ่ ราคาเพียง 35 บาทเท่านั้น! มีหลายไส้ให้เลือกสั่ง ผมลองสั่งเป็นไส้หมูที่ข้างในอัดแน่นมาด้วยเครื่องต่างๆ เช่น หมูสับ กุนเชียง และไข่นกกระทา ลูกเดียวอิ่มคร้าบบ ใครอยากซื้อไปฝากคนที่บ้านก็ซื้อกลับไปได้นะเพราะซาลาเปาที่นี้สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น